รายงานสถานการณ์ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
เรื่อง เงื่อนไขการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย
วันที่ 3 กรกฎาคม 2563
ปัจจุบันสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) ในต่างประเทศยังคงรุนแรง จึงจำเป็นที่จะต้องคงมาตรการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศ เพื่อควบคุมและป้องกันมิให้เกิดการแพร่ระบาดระรอกใหม่ในประเทศ และเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องมีแนวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับแนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 6) สั่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป ตามรายละเอียดดังนี้
1. อากาศยานที่สามารถทำการบินเข้ามายังท่าอากาศยานในประเทศไทยได้ คือ
1.1 อากาศยานราชการหรือที่ใช้ในราชการทหาร (State or Military Aircraft)
1.2 อากาศยานที่ขอลงฉุกเฉิน (Emergency landing)
1.3 อากาศยานที่ขอลงทางเทคนิค (Technical landing) โดยไม่มีผู้โดยสารออกจากเครื่อง
1.4 อากาศยานที่ทำการบินเพื่อให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ทำการบินทางการแพทย์ หรือการขนส่ง สิ่งของเพื่อสงเคราะห์แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 (COVID-19) (Humanitarian aid, medical and relief Flights)
1.5 อากาศยานที่ได้รับอนุญาตให้ทำการบินรับส่งบุคคลกลับประเทศไทยหรือกลับภูมิลำเนา (Repatriation flights)
1.6 อากาศยานขนส่งสินค้า (Cargo flights)
1.7 อากาศยานที่ขนส่งบุคคลตามที่กำหนดในข้อ 2
2. การเดินทางเข้าประเทศทางอากาศยานของบุคคลประเภทดังต่อไปนี้ ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้าประเทศ ปฏิบัติตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ตามกฎหมายคนเข้าเมือง กฎหมายโรคติดต่อ กฎหมายการเดินอากาศ และกฎหมายการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
2.1 ผู้มีสัญชาติไทย
2.2 ผู้มีเหตุยกเว้นหรือเป็นกรณีที่นายกรัฐมนตรีหรือหัวหน้าผู้รับผิดชอบการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอนุญาต
2.3 บุคคลในคณะทูต คณะกงสุล องค์การระหว่างประเทศ ผู้แทนรัฐบาล หน่วยงานของรัฐต่างประเทศ หน่วย งานระหว่างประเทศอื่นตามที่กระทรวงต่างประเทศอนุญาต ที่มาปฏิบัติงานในประเทศไทย และคู่สมรส บิดา มารดา บุตร ของบุคคลดังกล่าว
2.4 ผู้ขนส่งสินค้า
2.5 ผู้ควบคุมอากาศยานหรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานที่เดินทางมาตามภาระกิจและมีกำหนดเดินทางออก นอกประเทศชัดเจน
2.6 ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่เป็นคู่สมรส บิดา มารดา ของผู้มีสัญชาติไทย
2.7 ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบสำคัญถิ่นที่อยู่ หรือได้รับอนุญาติให้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
2.8 ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่มีใบอนุญาตทำงานหรือได้รับอนุญาตให้เข้ามาทำงานในประเทศไทยตามกฏหมาย รวมถึงคู่สมรสและบุตรของบุคคลดังกล่าว
2.9 ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่เป็นนักเรียน นักศึกษา ของสถานศึกษาในประเทศไทยที่ทางการไทยรับรอง รวมถึง บิดา มารดา หรือ ผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว ยกเว้นนักเรียนหรือนักศึกษาของโรงเรียนนอกระบบตาม กฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชนหรือสถานศึกษาอื่นของเอกชนซึ่งมีสถานะคล้ายกัน
2.10 ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่มีความจำเป็นในการตรวจรักษาพยาบาลในประเทศไทยและผู้ติดตามบุคคลดังกล่าว (ผู้ที่มารักษาโรคโควิด-19 ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ)
2.11 ผู้ไม่มีสัญชาติไทยที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศตามข้อตกลงพิเศษ (Special arrangement)
กับต่างประเทศ
บุคคลผู้เดินทางเข้ามาในประเทศตามข้อ 2 ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แนบท้ายคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 7/2563 สั่ง ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2563
อ้างอิง https://www.caat.or.th/th/archives/51887
###
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของเชื้อโรคโควิด 19 จากองค์การอนามัยโลก
https://www.who.int/thailand/emergencies/novel-coronavirus-2019/situation-reports
ศูนย์ข้อมูลกรมควบคุมโรคติดต่อ โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/eng/news.php
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ โทร +66 (0) 2694 6000
https://www.businesseventsthailand.com/en/situation-update-coronavirus-covid-19 หรือ info@tceb.or.th
การเดินทางเข้ามาในประเทศไทย