5. สำหรับสนามบินและสายการบินเส้นทางภายในประเทศที่เปิดให้บริการต้องปฏิบัติดังนี้
5.1 การบินรับส่งผู้โดยสาร ให้มีจำนวนผู้โดยสารได้ไม่เกิน 50% ของจำนวนความจุของเครื่องบินที่ใช้ในเที่ยวบินนั้น ๆ และให้จัดที่นั่งตามมาตรการเว้นระยะห่าง ผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยกันให้นั่งติดกันได้
5.2 ก่อนเข้าพื้นที่สนามบิน ให้ตรวจคัดกรองอย่างเข้มงวด ต้องตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย (Body Temperature Screening) ด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด (Non-contact Infrared Thermometer) หากบุคคลนั้นไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียสหรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบให้ปฏิเสธการเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด
5.3 ก่อนออกบัตรโดยสาร ให้สายการบินตรวจสอบเอกสารสำคัญของผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโรคของจังหวัดปลายทางอย่างเคร่งครัด หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน ให้พิจารณาระงับการออกบัตรโดยสาร
5.4 ให้สายการบินตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารโดยใช้เครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัดก่อนขึ้นเครื่องที่สถานีต้นทาง หากวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที
5.5 ก่อนออกจากพื้นที่สนามบิน ให้สนามบินตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มงวดโดยการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรดที่ไม่ต้องสัมผัสกับร่างกายของผู้ถูกตรวจวัด หากวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อย หอบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที
5.6 ให้สนามบินติดตามดูแลผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค. โดยเคร่งครัด
5.7 ให้สนามบินและสายการบินเพิ่มความเข้มงวดในการติดตามดูแลให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการในระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยว่าด้วยแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) พ.ศ. 2564 ประกาศ ณ วันที่ 9 เมษายน 2564 และปฏิบัติตามแนวทางมาตรการแนวปฏิบัติที่ ศบค. หรือรัฐบาลกำหนดอย่างเคร่งครัด
5.8 ให้สนามบินและสายการบินแจ้งเตือนผู้โดยสารกรณีเป็นผู้ป่วยยืนยัน หรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูงให้งดการเดินทาง หากฝ่าฝืนอาจได้รับโทษตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ประสานกับสายการบินเพื่อเตรียมการอำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแผนการเดินทางของผู้โดยสารไว้แล้ว และเพื่อให้ผู้โดยสารมีเวลาเพียงพอในการดำเนินการ จึงขอผ่อนผันต่อ ศบค. เพื่อให้การดำเนินการนี้ มีผลในวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะสิ้นสุด หรือมีประกาศอื่นใดเพิ่มเติม
สามารถตรวจสอบประกาศและมาตรการของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศได้ตามลิงก์ด้านล่างนี้
###
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากองค์การอนามัยโลก
ศูนย์ข้อมูลกรมควบคุมโรคติดต่อ โทร 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ โทร +66 (0) 2694 6000