การอำนวยความสะดวกให้นักเดินทางกลุ่มไมซ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทีเส็บมุ่งเน้นการบริการเพื่อสร้างความประทับใจและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางแห่งไมซ์ของภูมิภาคเอเซียซึ่งนับเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจของผู้ประกอบการไมซ์ที่จะเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดงานระดับโลก สร้างจุดเด่นและความประทับใจในการบริการต้อนรับนักเดินทางไมซ์จากทั่วทุกมุมโลก
ในปัจจุบัน ทีเส็บ มีบริการ MICE Lane ซึ่งเป็นบริการเฉพาะของทีเส็บในการให้บริการตรวจคนเข้าเมืองในช่องพิเศษที่สนามบินหลัก 2 แห่ง คือ สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง มีเคาน์เตอร์ประสานงานและประชาสัมพันธ์งานไมซ์อยู่ที่สนามบินทั้ง 2 แห่ง และมีเจ้าหน้าที่ต้อนรับตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาล ในปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) ทีเส็บมีแผนจะพัฒนาเพิ่มการให้บริการ MICE lane ครอบคลุม 5 สนามบินหลัก คือ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และอุดรธานี พร้อมเพิ่มมูลค่าการบริการ เพื่อสร้างความประทับใจในการเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมและงานแสดงสินค้านานาชาติ โดยจะแบ่งกลุ่มการให้บริการออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. คณะผู้เดินทางกลุ่มพิเศษสุด (VVIP) อาทิ เช่น บุคคลสำคัญของประเทศเจ้าภาพ, CEO , ผู้นำสูงสุดของงานประชุม หรืองานแสดงสินค้านานาชาติ
2. คณะผู้เดินทางกลุ่มพิเศษ (VIP) เช่น กลุ่มผู้บริหารการจัดงาน หรือผู้บริหารบริษัทสำคัญที่เข้าร่วมงาน
3. คณะผู้เดินทางกลุ่มประชุมทั่วไป (Delegate)
ทั้งนี้ คาดว่านโยบาย Free Visa ของรัฐบาลดังกล่าวจะส่งผลให้มีจำนวนนักเดินทางไมซ์ในระยะ 5 เดือนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักเดินทางไมซ์จากจีน ที่มีจำนวนนักเดินทางติดอันดับที่ 3 ของประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีนักเดินทางไมซ์จากจีนเข้าสู่ประเทศไทย 35,000 คน และเข้ามาใช้บริการ Mice Lane จำนวนไม่ต่ำกว่า 3,500 คน ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยสร้างรายได้จากอุตสาหกรรม MICE และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงสิ้นปี ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 ต่อไป
2. นโยบายฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวจากจีน และคาซัคสถาน และการขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวสัญชาติรัสเชีย
ประเทศไทยยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง สัญชาติจีน และ สัญชาติคาซัคสถาน เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว (ไม่ต้องขอวีซ่า) ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยให้สามารถเข้ามาท่องเที่ยวและพำนักในราชอาณาจักรไทยได้ “ไม่เกิน 30 วัน”
และมีการขยายระยะเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติรัสเชีย เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว จากเดิม 30 วัน เป็น 90 วัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและการเดินทาง โดยมีเงื่อนไขให้มีผลบังคับใช้ชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 ทั้งนี้ การดำเนินการมาตรการวีซ่าสำหรับนักเดินทางชาวรัสเซียครั้งนี้ ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการเดินทางเพิ่มเติม หลังจากรัฐบาลได้ดำเนินการด้านมาตรการวีซ่าฟรีเป็นการชั่วคราวเพื่อกระตุ้นการเดินทางต่อจากจีน และคาซัคสถาน ไปก่อนหน้านี้
ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้นักเดินทางตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว กลุ่มทัวร์ และกลุ่ม Incentive โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้เพิ่มกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมืองอีก 400 นาย ดูแลการตรวจหนังสือเดินทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
2 มกราคม 2567 รัฐบาลไทยประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป การเดินทางไปกลับทั้ง 2 ประเทศ ไม่ต้องมีวีซ่าระหว่างกันและกัน เป็นการยกระดับความสัมพันธ์และกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะให้กรมประชาสัมพันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งชี้แจงว่าประเทศไทยพร้อมแล้วจะเปิดประเทศ