ประเทศไทยมีภาพลักษณ์โดดเด่นเป็นที่รู้จักทั่วโลกในเรื่อง ‘เอกลักษณ์ไทย’ ที่สร้างความประทับใจให้นักเดินทางไมซ์นานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นเอกลักษณ์ด้านการบริการและการต้อนรับของผู้คน อาหารไทย สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตที่ไม่เหมือนชาติใดในโลก ทั้งประเพณีและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ทรงคุณค่า และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์งดงามติดอันดับโลก นอกจากนี้ ยังมีงานและกิจกรรมไมซ์นานาชาติมากมาย และหลากหลายประเภทให้เลือกสรร ตอบสนองทุกความต้องการทุกประเภท เป็นประสบการณ์มาเยือนที่หาที่ไหนไม่ได้นอกจากที่ประเทศไทยเท่านั้น และด้วยความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการจัดงานไมซ์ที่มีมาตรฐานระดับโลก ผสมผสานกับแนวคิดการจัดงานสร้างสรรค์ที่หลากหลายรองรับนักเดินทางกลุ่มไมซ์ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางที่ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการจัดงานไมซ์
1. ความเป็นไทย
ความรักชาติ คือ ความรัก ความสำนึก และความภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย ซึ่งคนไทยล้วนมีความตระหนักถึงความเป็นชาติอย่างมาก สะท้อนได้จากการสนับสนุนและส่งเสริมคนไทยที่ได้เป็นที่รู้จักของชาวโลก อาทิ ลิซ่า Blackpink , แบมแบม GOT7 และคนล่าสุดอย่าง ""แอนโทเนีย โพซิ้ว"" ที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย หลังจากการคว้าตำแหน่งรองอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 เมื่อไม่นานมานี้
ประเพณีไทย เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างช้านานและยังคงได้รับความสนใจจากคนไทยไม่เสื่อมคลายไปตามเวลา สะท้อนได้จากงานลอยกระทง ปี 2566 ในเดือนที่ผ่านมาที่คนไทยได้เข้าร่วมงานลอยกระทงตามสถานที่ต่าง ๆ กันเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีกด้วย
ในปัจจุบัน คนไทยมีความเชื่อและความสนใจในด้าน "การมูเตลู" เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจมากยิ่งขึ้น เช่น การขอพรวัดดัง บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สวมใส่เครื่องรางนำโชค การดูดวง เป็นต้น ซึ่งกระแสความนิยมนี้สามารถพัฒนา "การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา" (Faith-Based Tourism) ให้เป็นหนึ่งใน Soft Power ที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทยได้
ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของคนไทยที่มีมาแต่โบราณ เป็นการใช้อาวุธของร่างกาย 4 อย่างมาใช้ในการต่อสู้ คือ มือ(หมัด) ศอก เข่า และเท้า มาผนวกเป็นท่าต่อสู้ที่เรียกว่า "แม้ไม้มวยไทย" อันเป็นเอกลักษณ์สำคัญของมวยไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชาวไทยและชาวต่างชาติ มวยไทย นับว่าเป็นกีฬาประจำชาติไทยและยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ในปัจจุบันมวยไทยกำลังถูกส่งเสริมให้กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างหนึ่งของประเทศไทยที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาลให้กับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการถ่ายทอดสด ไลฟ์ Streaming หรือการขายของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กางเกงมวยไทย นวมมวยไทย ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยได้อย่างดี
กางเกงที่มีเนื้อผ้าและลักษณะคล้ายกับกางเกงช้าง แตกต่างกันที่ลวดลายของกางเกงแมว เกิดจากการจัดประกวดออกแบบลาย KORAT MONOGRAM ที่สื่อถึงอัตลักษณ์ของเมืองโคราชและความเป็นโคราชอย่างชัดเจน โดยผลงานออกแบบที่ชนะเลิศไปต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รวมถึงสร้างการจดจำให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งลาย KORAT MONOGRAM ที่ชนะเลิศในการประกวดครั้งนี้ ประกอบด้วย ลายแมว สัตว์ประจำจังหวัดนครราชสีมา ปราสาทหินพิมาย ประตูชุมพล และดอกสาร ดอกไม้ประจำจังหวัดนครราชสีมา ถือเป็นจังหวัดแรกของประเทศที่ริเริ่มให้มีลายประจำจังหวัด โดยกางเกงแมวได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากชาวโคราชและทั่วประเทศให้ความสนใจสั่งจองกางเกงแมวอย่างล้นหลาม สร้างไวรัลมาแรง "1 จังหวัด 1 กางเกง" ดันซอฟต์พาวเวอร์ เหมือนกางเกงช้างสุดฮิต จนเกิดกระแส “กางเกงประจำจังหวัด” ของตัวเอง ชูการจดจำให้นักท่องเที่ยว เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ สร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศไทย เช่น กางเกงปลาจ้องหม้อง soft power ของจังหวัดสงขลา เป็นต้น
ชุมชนที่มีอายุราว 200 ปีตั้งอยู่ในคุ้งบางกระเจ้า พื้นที่ที่เต็มไปด้วยผืนป่าที่ถูกขนานนามว่าเป็น "ปอดของคนกรุงเทพฯ" ชุนชนแห่งนี้มีทั้งคนไทยภาคกลาง มอญ และจีนดำรงชีวิตอยู่ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำเกษตรกรรม ทำสวนที่มีชื่อว่า สวนเบญจพรรณ มีการปลูกไม้ผลและสวนดอกไม้เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ชุมชนแห่งนี้มีผึ้งเป็นจำนวนมาก ประเพณีเก่าแก่ของชาวมอญในชุมชน คือ ประเพณีตักบาตรบางน้ำผึ้ง จัดช่วงวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี มีความเชื่อว่าการที่ได้ทำบุญจะได้อานิสงส์สูง พระสงฆ์สามารถเก็บน้ำผึ้งไว้ใช้เป็นยาได้ ชุมชนนี้มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ คือ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ทำให้สามารถท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตได้ รวมถึงการจัดกิจกรรม CSR ในการอนุรักษ์น้ำ
เป็นชุมชนที่ตั้งอยู่บนดอยแม่สลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ซึ่งชุมชนแห่งนี้มีชนเผ่าอาข่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งชาวอาข่าเรียกหมูบ้านของตัวเองว่า "หล่อโย" วิถีชีวิต ความเชื่อ และประเพณีของคนในชุมชนมีความสอดคล้องกับธรรมชาติ สามารถพักที่โฮมสเตย์บ้านดินพร้อมสัมผัสเอกลักษณ์ของชุมชนด้วยอาหารของอาข่า เช่น ต้มฟักแฟงดอย ทดลองทำอาหารเมนูน้ำพริกอาข่า เรียนรู้ภาษาอาข่า และประเพณีพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เล่นการละเล่นพื้นบ้าน เช่น เล่นไม้เขาะเนอะ ลูกข่างอาข่า และรถฟอร์มูล่าอาข่า รวมถึงท่องเที่ยวชุมชนในเชิงอนุรักษ์ สำรวจเส้นทางธรรมชาติและเก็บกาแฟจากสวนของเกษตรกรในชุมชน
เครดิตภาพ : Thailandvillageacademy
เป็นชุมชนที่มีต้นมะค่าโมงขาดใหญ่เป็นจำนวนมาก ภาษาอีสานเรียกว่าบักข่า และพื้นที่ของชุมชนตั้งอยู่บนเนินเรียกว่าดอน จึงเป็นที่มาของชื่อชุมชนเรียกว่า ชุมชนบ้านดอน มีความเก่าแก่อายุราว 200 ปี อีกทั้งเป็นชุมชนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบของจังหวัดขอนแก่น มีความโดดเด่นด้านการย้อมผ้าโดยใช้เทคนิคในการย้อมเย็นด้วยน้ำหมักชีวภาพ มีผ้าไหมมัดหมี่ที่สืบทอดกันมาต่อรุ่นสู่รุ่น และมีลวดลายรังสรรค์มาจากภูมิปัญญามัดหมี่ คือ ลายนพเก้าเฉลิมพระเกียรติ พร้อมจัดกิจกรรม CSR ให้กับนักเดินทางไมซ์ที่มาท่องเที่ยวในชุมชนสามารถได้ทำกิจกรรมย้อมผ้า และทำกิจกรรมช่วยฟื้นฟูธรรมชาติกับการยิงลูกมะค่าโมง คืนเมล็ดพันธุ์ป่าในช่วงฤดูฝน และกิจกรรมชิมอาหารจากความคิดสร้างสรรค์ของคนชุมชน เช่น ซุปหน่อไม้ล้านโคตร ไก่สามโล ต้มยำไก่ที่ปรุงจากไก่ไข่มันต่ำ ส้มตำ เป็นต้น